แบบทดสอบกลางภาค
1.แนวคิดทางการศึกษาของไทยยุคก่อนมีระบบโรงเรียน มีสาระสำคัญอะไรบ้าง
ตอบ การศึกษาไม่มีระบบและแบบแผน วัดเป็นแหล่งให้ความรู้ พระภิกษุเป็นผู้สอนเพียงเพื่อประกอบอาชีพ ส่วนใหญ่วิชาความรู้ที่ถ่ายทอดไม่มีการจดบันทึกไว้แต่จะใช่ความสามารถในการท่องจำมากกว่า
2.สมัยกรุงสุโขทัยกับกรุงศรีอยุธยา การจัดการศึกษาเหมือนกันหรือต่างกันอย่างไรอธิบาย
ตอบ เหมือนกัน คือมีวัดเป็นศูนย์กลางในการศึกษา ทำหน้าที่อบรมสั่งสอนและถ่ายทอดวิชาความรู้ อ่าน เขียน ภาษาไทย ภาษาบาลี และวิชาความรู้เบื้องต้น อีกทั้งสอนวิชาป้องกันตัวสำหรับผู้ชาย ใช้ในเวลาศึกสงคราม ส่วนผู้หญิงจะสอนวิชาหัตถศึกษา เพื่อเป็นเครื่องมือทำมากิน เช่น งานประดิษฐ์ เย็บปักถักร้อยและทอผ้า
ตอบ เหมือนกัน คือมีวัดเป็นศูนย์กลางในการศึกษา ทำหน้าที่อบรมสั่งสอนและถ่ายทอดวิชาความรู้ อ่าน เขียน ภาษาไทย ภาษาบาลี และวิชาความรู้เบื้องต้น อีกทั้งสอนวิชาป้องกันตัวสำหรับผู้ชาย ใช้ในเวลาศึกสงคราม ส่วนผู้หญิงจะสอนวิชาหัตถศึกษา เพื่อเป็นเครื่องมือทำมากิน เช่น งานประดิษฐ์ เย็บปักถักร้อยและทอผ้า
3.อิทธิพลของชาวตะวันตกที่มีต่อการศึกษาไทยยุคก่อนมีระบบโรงเรียนมีอะไรบ้าง
ตอบ มีการเผยแพร่ศาสนาคริสต์และตั้งโรงเรียนสอนศาสนา อีกทั้งยังมีการสอนวิชาการแบบยุโรป อาทิ ดาราศาสตร์ ภาษาฝรั่งเศส ต่อเรือและการก่อสร้าง
ตอบ มีการเผยแพร่ศาสนาคริสต์และตั้งโรงเรียนสอนศาสนา อีกทั้งยังมีการสอนวิชาการแบบยุโรป อาทิ ดาราศาสตร์ ภาษาฝรั่งเศส ต่อเรือและการก่อสร้าง
4.การจัดการศึกษาสมัยธนบุรีและรัตนโกสินทร์ตอนต้น มีความก้าวหน้าอย่างไร
ตอบ การจัดการศึกษาสมัยกรุงธนบุรีและรัตนโกสินทร์ตอนต้น มีการเปลี่ยนแปลงไม่เด่นชัดมาก ชาวบ้านที่มีฐานะดีและข้าราชการนิยมส่งบุตรหลานไปศึกษาเล่าเรียนที่วัด ส่วนการจัดการศึกษาสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นเริ่มมีการนำวิทยาการใหม่ๆมาใช้ มีการสอนภาษาอังกฤษจากหมอสอนศาสนา ตั้งโรงพิมพ์แห่งแรก(รัชการที่4)และจัดพิมพ์ตำราเรียน เป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิรูปการศึกษาไทยในยุคสมัยต่อมา
ตอบ การจัดการศึกษาสมัยกรุงธนบุรีและรัตนโกสินทร์ตอนต้น มีการเปลี่ยนแปลงไม่เด่นชัดมาก ชาวบ้านที่มีฐานะดีและข้าราชการนิยมส่งบุตรหลานไปศึกษาเล่าเรียนที่วัด ส่วนการจัดการศึกษาสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นเริ่มมีการนำวิทยาการใหม่ๆมาใช้ มีการสอนภาษาอังกฤษจากหมอสอนศาสนา ตั้งโรงพิมพ์แห่งแรก(รัชการที่4)และจัดพิมพ์ตำราเรียน เป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิรูปการศึกษาไทยในยุคสมัยต่อมา
5.แบบเรียนเล่มแรกของไทยชื่อ เกิดในสมัยใด ตรงกับรัชกาลใด มีที่มาอย่างไร
ตอบ แบบเรียนเล่มแรกของไทย ชื่อ “ จินดามณี” เกิดขึ้นในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ประมาณ พ.ศ.2199 – 2231 มีที่มาจากการที่มีชาวต่างชาติเข้ามาติดต่อการค้า และนำศาสนาเข้ามาเผยแพร่ทำให้พระองค์เกรงว่าคนไทยจะหันไปเข้ารีตและนิยมฝรั่ง ทรงรับสั่งให้พระโหราธิบดีแต่งหนังสือแบบเรียนภาษาไทยเป็นของตนชื่อ “จินดามณี”นับเป็นหนังสือแบบเรียนเล่มแรกของไทย
ตอบ แบบเรียนเล่มแรกของไทย ชื่อ “ จินดามณี” เกิดขึ้นในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ประมาณ พ.ศ.2199 – 2231 มีที่มาจากการที่มีชาวต่างชาติเข้ามาติดต่อการค้า และนำศาสนาเข้ามาเผยแพร่ทำให้พระองค์เกรงว่าคนไทยจะหันไปเข้ารีตและนิยมฝรั่ง ทรงรับสั่งให้พระโหราธิบดีแต่งหนังสือแบบเรียนภาษาไทยเป็นของตนชื่อ “จินดามณี”นับเป็นหนังสือแบบเรียนเล่มแรกของไทย
6.การจัดการศึกษาภาคบังคับ มีลักษณะเป็นอย่างไร จงอธิบาย ยกเหตุผล
ตอบ การจัดการศึกษาภาคบังคับ มีลักษณะการจัดการศึกษาที่มีความรู้ทั้งฝ่ายสามัญศึกษาและวิสามัญศึกษา มีจุดมุ่งหมายเพื่อรับผิดชอบชั่วดี นำวิชาไปประกอบอาชีพและการเป็นพลเมืองดี เช่น ประถมศีกษา
ตอบ การจัดการศึกษาภาคบังคับ มีลักษณะการจัดการศึกษาที่มีความรู้ทั้งฝ่ายสามัญศึกษาและวิสามัญศึกษา มีจุดมุ่งหมายเพื่อรับผิดชอบชั่วดี นำวิชาไปประกอบอาชีพและการเป็นพลเมืองดี เช่น ประถมศีกษา
7.การจัดการศึกษาที่เรียกว่า มาติกาศึกษา
เป็นอย่างไร จงอธิบาย ยกเหตุผล
ตอบ การจัดการศึกษาแบบมาติกาศึกษา คือ มีศูนย์กลางการศึกษาอยู่ที่วัด
สำหรับการศึกษาแบบมาติกาศึกษา มีอยู่ 8 มาติกา คือ
4.1 ตำบลที่เล่าเรียนคือที่ตั้งของวัด
4.2 โรงเรียนคือ ที่เรียนในวัด เช่น หอฉัน หอสวดมนต์ ศาลาการเปรียญ กุฏิและวิหาร
4.3 นักเรียนและครู มี 3 ประเภทคือ ภิกษุ สามเณร และศิษย์วัด
4.4 เวลาเรียนคือ ตอนพระว่าง
4.5 เครื่องเล่าเรียนคือ กระดานชนวน ดินสอพอ กระดาษข่ายและปากกาไม้ไผ่ เป็นต้น
4.6 วิชาหนังสือคือ หนังสือเรียนและหนังสืออ่านประกอบ
4.7 วิชาเลขคือ เลขคณิตวิธีต่าง ๆ
4.8 ข้อบังคับการเรียนคือ ระเบียบวินัย การลงโทษ และการชมเชย
ตอบ การจัดการศึกษาแบบมาติกาศึกษา คือ มีศูนย์กลางการศึกษาอยู่ที่วัด
สำหรับการศึกษาแบบมาติกาศึกษา มีอยู่ 8 มาติกา คือ
4.1 ตำบลที่เล่าเรียนคือที่ตั้งของวัด
4.2 โรงเรียนคือ ที่เรียนในวัด เช่น หอฉัน หอสวดมนต์ ศาลาการเปรียญ กุฏิและวิหาร
4.3 นักเรียนและครู มี 3 ประเภทคือ ภิกษุ สามเณร และศิษย์วัด
4.4 เวลาเรียนคือ ตอนพระว่าง
4.5 เครื่องเล่าเรียนคือ กระดานชนวน ดินสอพอ กระดาษข่ายและปากกาไม้ไผ่ เป็นต้น
4.6 วิชาหนังสือคือ หนังสือเรียนและหนังสืออ่านประกอบ
4.7 วิชาเลขคือ เลขคณิตวิธีต่าง ๆ
4.8 ข้อบังคับการเรียนคือ ระเบียบวินัย การลงโทษ และการชมเชย
8. การจัดการศึกษาที่มุ่งคนเข้ารับราชการตรงกับสมัยใด
จงอธิบาย ยกเหตุผล
ตอบ การจัดการศึกษาที่มุ่งคนเข้ารับราชการตรงกับรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ตั้งโรงเรียนสอนภาษาไทย ที่พระบรมมหาราชวังเป็นโรงเรียนแห่งแรกของไทย มีพระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย อาจาริยางกูร) เป็นอาจารย์ใหญ่ มุ่งที่จะฝึกคนเข้ารับราชการ เรียนภาษาไทย การคิดเลข และขนบธรรมเนียมราชการ
ตอบ การจัดการศึกษาที่มุ่งคนเข้ารับราชการตรงกับรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ตั้งโรงเรียนสอนภาษาไทย ที่พระบรมมหาราชวังเป็นโรงเรียนแห่งแรกของไทย มีพระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย อาจาริยางกูร) เป็นอาจารย์ใหญ่ มุ่งที่จะฝึกคนเข้ารับราชการ เรียนภาษาไทย การคิดเลข และขนบธรรมเนียมราชการ
9. การปฏิรูปการศึกษาในยุคปัจจุบันท่านเห็นด้วยหรือไม่
จงอธิบาย ยกเหตุผล
ตอบ เห็นด้วย เพราะการศึกษาของไทยจะได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ผู้เรียนจะได้มีผลสัมฤทธิ์ที่สูงขึ้นตามศักยภาพและเพื่อนำพาประเทศไปสู่สากล
ตอบ เห็นด้วย เพราะการศึกษาของไทยจะได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ผู้เรียนจะได้มีผลสัมฤทธิ์ที่สูงขึ้นตามศักยภาพและเพื่อนำพาประเทศไปสู่สากล
10. ท่านเข้าใจการจัดการศึกษาเข้าสู่สมาคมอาเซียน
มียุทธศาสตร์ที่สำคัญอย่างไร
ตอบ การจัดการศึกษาเตรียมเข้าสู่สมาคมอาเซียน กำหนดยุทธศาสตร์ที่สำคัญคือ สร้างความตระหนัก หลักสูตรระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา เตรียมบุคลากรครูและนักเรียนเพื่อรองรับ และขยายโอกาสทางการศึกษา ที่สอดคล้องกับตลาดแรงงานและเศรษฐกิจของยุคโลกาภิวัตน์
ตอบ การจัดการศึกษาเตรียมเข้าสู่สมาคมอาเซียน กำหนดยุทธศาสตร์ที่สำคัญคือ สร้างความตระหนัก หลักสูตรระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา เตรียมบุคลากรครูและนักเรียนเพื่อรองรับ และขยายโอกาสทางการศึกษา ที่สอดคล้องกับตลาดแรงงานและเศรษฐกิจของยุคโลกาภิวัตน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น